เว็บไซต์เดลีเมล์รายงานว่า ที่ประเทศเม็กซิโกมีเหตุการณ์สยองเมื่อเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ร่วมกันขุดบ่อน้ำเก่าลึก 30 เมตร และพบถุงบรรจุชิ้นส่วนเหยื่อถูกฆ่าหั่นศพ จำนวนมากถึง 75 ถุง โดยที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีศพกี่รายที่ถูกจับยัดไว้ในถุงเหล่านี้
เจ้าหน้าเหล่านี้ประกอบด้วยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประจำรัฐฮาลิสโก
กองกำลังคุ้มกันพลเรือน และหน่วยดับเพลิง ซึ่งได้เริ่มเข้าขุดค้นบ่อดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากชาวบ้านในเมืองลาพริมาเวราได้ร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นเน่าที่ออกมาจากทุ่งหญ้า และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันขุดก็เจอต้นตอของกลิ่น โดยตอนเริ่มต้น เจ้าหน้าที่ได้ขุดลอกคูน้ำในจุดหนึ่งในวันที่ 3 ก.ย.และพบถุงบรรจุศพ 3 ถุง
ชุดค้นหาจึงได้ทำงานหนักขึ้นตลอดหลายวันจนกระทั่งพบบ่อน้ำเก่าแก่ที่ถูกใช้เป็นหลุมฝังศพดังกล่าวพร้อมด้วยถุงบรรจุชิ้นส่วนศพ 75 ถุง โดย เมซโดนีโอ ทาเมศ กัวจาร์โด หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของรัฐฮาลิสโก ระบุว่า ในจำนวนนี้มีศพที่อยู่ในสภาพครบถ้วนอย่างน้อย 8 ศพ และยอมรับว่าคดีนี้จะเป็นงานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนอย่างมาก กว่าที่จะระบุตัวผู้เสียชีวิตได้
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในเมืองข้างเคียงก็ได้ทำการขุดลอกคูน้ำ จนพบ 27 ศพถูกฝังอยู่ในหลุมขนาดใหญ่มาแล้ว และระหว่างการสอบสวนยังพบกะโหลกมนุษย์เพิ่มอีก 7 ศพ และกระดูกมนุษย์อีกหลายชิ้น โดยมีข้อมูลระบุว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นจุดที่มีสงครามระหว่างกลุ่มอาชญากรที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของเม็กซิโก อย่างกลุ่ม Jalisco New Generation และ Nueva Plaza Cartel
ทั้งนี้ เม็กซิโก กลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่อันตรายติดอันดับโลก ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เม็กซิโกมีสถิติการเกิดเหตุฆาตกรรมมากถึง 17,608 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 5.3% ขณะเดียวกัน ยังเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่รัฐบาลเม็กซิโกเริ่มเก็บบันทึกตัวเลขอย่างเป็นทางการ ในปี 2540 โดยในขณะนี้ประเทศซึ่งมีประชากรเกือบ 125 คนที่ต้องเสี่ยงกับสถานการณ์ที่มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น 100 คดีในแต่ละวัน
วานนี้ (12 ก.ย.) มีรายงานว่าพบเด็กหญิงอายุ 13 ปี เด็กต่างด้าวชาวพม่าเชื้อชาติไทยใหญ่ ได้เข้ารักษาตัวที่รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากป่วยเป็นโรคหนองในระยะรุนแรง และหลังแพทย์ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น ก็ได้ส่งตัวเด็กให้บ้านพักเด็กและครอบครัวในจังหวัดดูแลชั่วคราว
เมื่อเวลา 13.00 ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้ร่วมกันสอบปากคำเด็ก ซึ่งให้การว่า ตนเองเดิมอาศัยอยู่บ้านทุ่งกองมู ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เรียนจบชั้นป.เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และได้เดินทางมารับจ้างทำงานที่จ.เชียงใหม่ จากนั้นก็ถูกแม่เล้าบังคับให้ค้าประเวณีจำนวน 5 ครั้งกับผู้ใหญ่ และนักธุรกิจในตัวจังหวัดตั้งแต่เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ไม่มีใครสวมถุงยางเลย และตนไม่ทราบว่าติดเชื้อหนองในมาจากลูกค้ารายไหน
หลังข่าวนี้แพร่ออกไป มีรายงานว่าบรรดาแขกวีไอพีที่ซื้อบริการทางเพศเด็กหลายรายในจ.แม่ฮ่องสอน ก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เนื่องจากกลัวที่จะถูกเปิดเผยเรื่องร่วมหลับนอนกับเด็กอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นโทษหนัก บางรายได้หนีไปที่เชียงใหม่ ส่วนบางรายยังคงอยู่ในพื้นที่และเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน
ทั้งนี้ ในอดีตจังหวัดแม่ฮ่องสอน เคยมีคดีค้ากามแก๊งนกฮูกบ้านน้ำเพียงดิน กรณีอื้อฉาวข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐซื้อบริการเด็กจนเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2560
รวบมือฆ่าเปลือย-หมกป่าสาว 18 หลังคลอดลูกได้ไม่นาน
จากกรณีที่มีการพบศพ น.ส.ปริศนา หรือแต เนียมกล่ำ อายุ 18 ปี ถูกฆาตกรรมทิ้งในป่ากกซอยสุวินทวงศ์ 24 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ โดยสภาพศพสวมเสื้อชุดนอนลายเป็ดสีเหลือง ท่อนล่างเปลือย สภาพนอนคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ และต่อมาสามารถรวบตัว นายยุติพงษ์ สุขเจริญ อายุ 22 ปี ผู้ต้องสงสัย ซึ่งถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ไว้ได้ และสารภาพว่าตนลงมือฆ่าเหยื่อจริง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 ของวันนี้ (13 ก.ย.)
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี ได้เผยในช่วงสายของวันนี้ว่า ชุดสืบสวนได้เข้าพื้นที่ตรวจค้นบ้านของนายยุติพงษ์ พบโทรศัพท์ของน.ส.ปริศนา และเสื้อผ้าของนายยุติพงษ์ที่ใส่ในวันเกิดเหตุ ประกอบกับหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด มีน้ำหนักพอที่จะขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับ นายยุติพงษ์ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และ เสพยาเสพติดเนื่องจากผลการตรวจปัสสาวะพบมีสีม่วง โดยข้อหาอื่นๆ อย่าง ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานั้น ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชก่อน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน
ส่วนประเด็นที่นายยุติพงษ์อ้างว่ามีผู้ร่วมกระทำผิด 4-5 คนขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยง จากนี้ขั้นตอนต่อไปหลังศาลอนุมัติหมายจับคือ พนักงานสอบสวนจะนำหมายศาลเข้าควบคุมตัวนายยุติพงษ์ ที่ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่รพ.นวมินทร์ 9 และหากมีข้อสงสัย ตำรวจจะเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากสืบทราบว่า นายยุติพงษ์มีความสนิทสนมและแอบชอบผู้ตายมาก่อน อีกทั้งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน และในวันเกิดเหตุนายยุติพงษ์นั่งดื่มสุราอยู่กับนายธวัชชัย ตำราเรียง อายุ 19 ปี สามีผู้เสียชีวิต
นายยุติพงษ์บอกกับผู้ตายว่าจะไปข้างนอก แต่กลับไปที่บ้านของนายธวัชชัย และหลอกให้ผู้ตายซึ่งเพิ่งคลอดลูกได้ไม่กี่เดือน ออกมารับนายธวัชชัยที่เมาไม่ได้สติ ก่อนจะลงมือก่อเหตุ นอกจากคดีนี้แล้ว ตำรวจยังพบว่านายยุติพงษ์เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเสพยาเสพติดมาก่อนอีกด้วย
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม